|
|
|
เดิมเทศบาลเมืองชุมแสงมีฐานะเป็นสุขาภิบาลท้องที่ชุมแสง ตามพระราชบัญญัติจัดการศุขาภิบาล ตามหัวเมือง ร.ศ.127 และ ตามประกาศใช้พระราชบัญญัติจัดการสุขาภิบาล อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ประกาศในหนังสือราชกิจจานุเบกษา วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2473 ต่อมาสุขาภิบาลท้องที่ชุมแสง |
|
|
|
ได้ยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองชุมแสง ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ตราไว้ ณ วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2478 ออกตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบเทศบาล พ.ศ. 2476 มีเนื้อที่ 1 ตารางกิโลเมตร เมื่อมีความเจริญขึ้นและชุมชนหนาแน่นและขยายตัวออกไปนอกเขตมากขึ้น สมควรเปลี่ยนแปลงเขต เทศบาลเมืองชุมแสงโดยขยายเขตออกไปเพื่อให้เหมาะสมแก่การปกครองและการทะนุบำรุงท้องถิ่น จึงได้ ประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา เปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ.2498 ให้ไว้ ณ วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2498 มีเนื้อที่ 2.4 ตารางกิโลเมตรโดยมีขุนศัตตอาญา เป็นนายกเทศมนตรีคนแรก (พ.ศ. 2478 – 2479) นายบำรุง อินทรสูต เป็นปลัดเทศบาลคนแรก (พ.ศ. 2475 - 2480) |
|
|
|
|
เทศบาลเมืองชุมแสงตั้งอยู่ในบริเวณตอนเหนือของจังหวัดนครสวรรค์ ในเขตอำเภอชุมแสง ห่างจากจังหวัดนครสวรรค์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 39 กิโลเมตร บนถนนทางหลวงหมายเลข 225 มีเนื้อที่ 2.4 ตารางกิโลเมตร |
|
|
|
|
|
เทศบาลเมืองชุมแสง มีดวงตราประจำเทศบาล เป็นรูปเทวดาถือคบเพลิง เพื่อจะให้สอดคล้องกับชื่อของท้องถิ่นคำว่าชุมแสง และนอกจากนั้น ยังมีความหมายคือแสงสว่าง คือความเจริญ รุ่งโรจน์ ดุจแสงของคบเพลิง |
|
|
|
|
|
|
|
|
ด้านเหนือ ตั้งแต่หลักเขตที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน ตรงฟากใต้ของทางสาธารณะ เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ถึงทางรถไฟ ที่ กม.281.210 ซึ่งเป็น หลักเขตที่ 2 |
|
|
ด้านใต้ จากหลักเขตที่ 4 เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ถึงทางรถไฟ ที่ กม.279.852 ซึ่งเป็นหลักเขตที่ 5 จากหลักเขตที่ 5 เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือถึงฟากตะวันตกถนนเกยไชย วัดตามแนวถนนจากคลองวัดอนงค์เป็นระยะ 984 เมตร ซึ่งเป็นหลักเขตที่ 6 |
|
|
ด้านตะวันออก จากหลักเขตที่ 2 เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ถึงฟากใต้ของถนนแสงมุกดา วัดตามแนวถนนจากทางรถไฟเป็นระยะ 880 เมตร ซึ่งเป็นหลักเขตที่ 3 จากหลักเขตที่ 3 เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นมุม 114 องศา กับเส้นหลักเขตที่ 2 และหลักเขตที่ 3 เป็นระยะ 968 เมตรซึ่งเป็นหลักเขตที่ 4 |
|
|
ด้านตะวันตก จากหลักเขตที่ 6 เป็นเส้นตรงไปทางทิศเหนือถึงฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน วัดตามริมฝั่งแม่น้ำน่านจากวัดคลองระนงเป็นระยะ 728 เมตร ซึ่งเป็นหลักเขตที่ 7 จากหลักเขตที่ 7 เลียบตามฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านไปทางทิศตะวันออกและทิศเหนือ จนบรรจบหลักเขตที่ 1 |
|
|
|
|
|
|
|
สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่ราบริมแม่น้ำน่าน บริเวณตะวันออกของชุมชนถัดจากทางรถไฟออกไปเป็นที่ลุ่ม พื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่ชุ่มน้ำ ชุมแสงมีลักษณะสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ที่แบ่งพื้นที่ออกเป็นบริเวณต่างๆอย่างเด่นชัด โดยแม่น้ำน่าน คลองจระเข้เผือก คลองระนง และทางรถไฟสายเหนือ ศูนย์กลางชุมชนคือตลาดชุมแสง ตั้งอยู่ตอนกลางของพื้นที่ชุมชนระหว่างแม่น้ำน่านกับทางรถไฟ แหล่งน้ำและเส้นทางน้ำที่สำคัญในชุมชน ได้แก่ บ่อหกบาท คลองจระเข้เผือก คลองระนง และแม่น้ำน่าน |
|
|
|
|
|
ประชาชนส่วนใหญ่ในเขตเทศบาลประกอบอาชีพ และมีรายได้จากด้านการพาณิชย์ และรับจ้างทั่วไป |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
จำนวนประชากรทั้งหมด 9,229 คน แยกเป็น |
|
ชาย จำนวน 4,274 คน |
คิดเป็นร้อยละ 46.31 |
|
หญิง จำนวน 4,955 คน |
คิดเป็นร้อยละ 53.69 |
จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 2,346 ครัวเรือน |
ความหนาแน่นเฉลี่ย 3,845.42 คน/ตารางกิโลเมตร |
|
|
|
|
|
|
ชุมชนที่ |
ชื่อชุมชน |
จำนวนประชากร |
ชาย |
หญิง |
รวม |
|
จำนวน
ครัวเรือน |
|
|
1 |
|
ชุมชนแสงสวรรค์รักพัฒนา |
575 |
603 |
1,178 |
262 |
|
|
2 |
|
ชุมชนแสงเจียรนัย |
306 |
494 |
800 |
322 |
|
|
3 |
|
ชุมชนชุมแสงร่วมใจ |
425 |
498 |
923 |
260 |
|
|
4 |
|
ชุมชนแสงราษฎรรังสรรค์ |
313 |
381 |
694 |
192 |
|
|
5 |
|
ชุมชนแสงราษฎรร่วมใจ |
403 |
412 |
815 |
205 |
|
|
6 |
|
ชุมชนแสงจันทร์ฉาย |
200 |
274 |
474 |
110 |
|
|
7 |
|
ชุมชนแสงมุกดาพัฒนาชุมชน |
604 |
655 |
1,259 |
280 |
|
|
8 |
|
ชุมชนแสงโชติช่วงชัชวาลย์ |
551 |
567 |
1,118 |
194 |
|
|
9 |
|
ชุมชนแสงชัชวาลย์กาญจนา |
509 |
680 |
1,189 |
324 |
|
|
10 |
|
ชุมชนแสงบัณฑิตสร้างสรรค์ |
388 |
391 |
779 |
197 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
รวม |
4,274 |
4,955 |
9,229 |
2,346 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|